ลงมือเขียน | ยิ่งเขียนยิ่งกระตุ้นการทำงานของสมอง
การสร้าง output หรือการสร้างผลงาน ผลลัพท์ การเปลี่ยนความคิดให้ออกมาเป็น ‘การกระทำ’ นั้น สามารถทำได้หลายทาง ทั้งการ ‘พูด’ และ ‘เขียน’ แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ‘การเขียน’ นั้นจะช่วยทำให้สามารถจำได้ดีกว่าและนำไปสู่การพัฒนาตัวเองได้ดีกว่ามาก ซึ่งทุกคนเคยอาจจะเคยได้ทราบจากการเรียนที่โรงเรียน ที่ต้องให้นักเรียนมีสมุดจดและฝึกเขียนส่งการบ้านครับ
ว่าแต่ว่า ทำไม ‘การเขียน’ ถึงได้ดีขนาดนั้น
สาเหตุเป็นเพราะ ‘การเขียน’ จะช่วยกระตุ้น Reticular Activating System (RAS) ในก้านสมองที่เป็นส่วนประสาทสัมผัสการรับรู้ทางอารมณ์
สารฮอร์โมนที่ควบคุมอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Dopamine (โดพามีน) Serotonin (เซโรโทนิน) หรือ Adrenaline (อะดรีนาลีน) เอง ก็จะถูกหลั่งออกจาก RAS เข้าสู่สมองโดยรวม
ถ้าเปรียบเทียบเสมือนสถานีต้นทางของทุกสายรถไฟ เป็นส่วนที่มีความสำคัญมาก ซึ่งเรียนได้ว่าเป็นห้องควบคุมปฏิบัติการหรือเป็นกุญเเจที่จะสามารถเปลี่ยนชีวิตได้เลยทีเดียว
ถ้า RAS ได้รับการกระตุ้น สมองจะสั่งการให้เกิด ‘การรับรู้ ให้ตื่นตัว และไม่พลาดรายละเอียดต่างๆ’ แล้วสมองก็จะ focus กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และเริ่มที่จะพยายามรวบรวมข้อมูลต่างๆเข้ามาในสมอง เปรียบเสมือนได้กับตอนที่เราใส่คำเพื่อลอง search หาข้อมูลใน Google น่ะแหละครับ
หรืออาจจะเรียกการทำงานที่ได้อีกอย่างว่าเป็น ‘ตัวกรองความตื่นตัว’ ข้อมูลไหนที่ไม่สำคัญก็จะคัดกรองออกไป และจะใช้พลังสมองไปเฉพาะกับสิ่งที่สำคัญเท่านั้น
เพียงแค่เราเริ่ม ลงมือเขียน ก็จะช่วยสร้าง ‘สภาพรับรู้ตื่นตัวได้ในทันที’ ดังนั้นถ้าทุกคนคิดว่า ‘สิ่งนี้สำคัญ’ ‘อยากจดจำ’ ‘อยากรู้เพิ่มเติม’ แล้ว ก็แนะนำให้ลงมือเขียนได้เลยครับ
สำหรับคุณหมอ Kabasawa Shion จิตแพทย์ที่เป็นผู้เขียนบทความ เป็นคนที่ใช้วิธีการเขียนเพื่อการจดจำ เมื่อสมัยเป็นนักศึกษา ตอนก่อนสอบก็เรียนได้ว่าเขียนเยอะมากขนาดใช้ปากกาใหม่หมึกหมดภายใน 3 วันเลยทีเดียว
ดังนั้น การเขียน เขียน เขียน ยิ่งเขียนมากเท่าไหร่ RAS ก็จะได้รับการกระตุ้น และจะสร้างสภาพการรับรู้ให้กับสมองโดยรวม เป็นผลที่ได้จากการสร้าง output ผ่านการ ‘เขียน’ ที่อ้างอิงจาก Brain Science หรือ Neuroscience (ประสาทวิทยาศาสตร์) ครับผม