การปล่อยสมองให้ว่าง ที่ผลลัพธ์กลับไม่ว่างอย่างที่คิด
ภายใต้โลกของทุนนิยมซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน มนุษย์เริ่มให้ความสำคัญต่อวิธีบริหาร-จัดการเวลาเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การกระตุ้นความคิด เพื่อวิ่งตามกระแสสังคม จึงคล้ายกับการเร่งเร้าให้สมองทำงานหนักอย่างไม่หยุดหย่อน
จากผลงานวิจัยด้านสาขาประสาทวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์แล้วว่า “การปล่อยสภาวะความคิดให้ว่าง” จะส่งผลให้สมองส่วน DMN (Default Mode Network) หรือที่รู้จักกันในชื่อของสมองโหมดแสตนด์บาย สามารถทำการประมวลผลได้ดียิ่งขึ้น เมื่อยามถูกใช้งานอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าจะเป็นสมองโหมดแสตนด์บายก็จริง แต่สมองส่วนนี้จะช่วยให้เรานึกถึงเหตุการณ์ในอดีต วิธีจัดลำดับความคิด การวิเคราะห์แก้ไขปัญหาปัจจุบัน รวมถึงการคาดคะเนเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างง่ายดาย
ส่วนสาเหตุที่สมองโซน DMN สามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากว่าในยามที่เราปล่อยสมองให้ว่าง จะคล้ายกับการผ่อนคลายให้กล้ามเนื้อ และเมื่อเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง สมองส่วน DMN จะใช้งานพลังงานเพิ่มขึ้นถึง 15 เท่ามากกว่าตอนปกติ ทำให้เราสามารถนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ทั้งประมวลผล–ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
รู้หรือไม่ว่า หากเราไม่ฝึกปล่อยสมองให้ว่างเลยสักครั้ง สมองก็จะค่อยๆ เสื่อมลงทีละนิด ไม่ว่าจะเป็นด้านสังเกตการณ์ การจดจำ ทักษะการตัดสินใจ รวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ทุกรูปแบบ
ดังนั้น เพื่อให้สมองส่วน DMN ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ควรหาเรื่องคิดตลอดเวลาจนเกินไป แต่ให้หาเวลาให้สมองว่างๆ ไม่คิดอะไรบ้าง เพื่อการทำงานและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ดีขึ้น
ข้อมูลจากหนังสือ アウトプット大全
